krulemly
วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555
Future Simple Tense
10.1 ประโยค Future Simple Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง : Subject + will, shall + verb 1
เมื่อต้องการแต่งประโยค Future Simple Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธให้เติม not หลัง will หรือ shall ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Subject + will, shall + not + verb 1
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เช่น My father will go to America next month. ( พ่อของฉันจะไปอเมริกาเดือนหน้า )
โครงสร้าง : Subject + will, shall + verb 1
ตัวอย่าง : 1. I shall go to Chiang mai tomorrow. ( ฉันจะไปเชียงใหม่วันพรุ่งนี้ )( ประธาน + will , shall + กริยาช่อง 1 )
10.2 ประโยค Future Simple Tense เชิงปฏิเสธ2. She will study Spanish next week. ( หล่อนจะเรียนภาษาสเปนสัปดาห์หน้า )
เมื่อต้องการแต่งประโยค Future Simple Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธให้เติม not หลัง will หรือ shall ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Subject + will, shall + not + verb 1
ตัวอย่าง : 1. I shall not ( shan’t ) go to Chiang mai tomorrow. ( ฉันจะไม่ไปเชียงใหม่วันพรุ่งนี้ )( ประธาน + will , shall + not + กริยาช่อง 1 )
2. She will not ( won’t ) study Spanish next week. ( หล่อนจะไม่เรียนภาษาสเปนสัปดาห์หน้า )10.3 ประโยค Future Simple Tense เชิงเชิงคำถามและการตอบ
เมื่อ ต้องการแต่งประโยค Future Simple Tense ให้มีความหมาย เชิงคำถามให้นำ will หรือ shall มาวางไว้หน้าประโยค และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Will,Shall + Subject + verb 1 ?
ตัวอย่าง : 1. Shall you go to Chiang mai tomorrow ? ( คุณจะไปเชียงใหม่วันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่ )( Will, Shall + ประธาน + กริยาช่อง 1 ? )
- Yes, I shall. ( ใช่ฉันจะไป )
- No, I shan’t. ( ไม่ฉันจะไม่ไป )
10.4 หลักการใช้ Future Simple Tense2. Will she study Spanish next week ? ( หล่อนจะเรียนภาษาสเปนสัปดาห์หน้าใช่หรือไม่ )
- Yes, she will. ( ใช่หล่อนจะเรียน )
- No, she won’t. ( ไม่หล่อนจะไม่เรียน )
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เช่น My father will go to America next month. ( พ่อของฉันจะไปอเมริกาเดือนหน้า )
I shall play football tomorrow afternoon.( ฉันจะเล่นฟุตบอลบ่ายวันพรุ่งนี้ )
วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
- ระวังสับสนกับ ทฤษฎีใหม่
เศรษฐกิจพอเพียงมีบทบาทต่อการกำหนดอุดมการณ์การพัฒนาของประเทศ โดยปัญญาชนในสังคมไทยหลายท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็น อย่างเช่น ศ.นพ.ประเวศ วะสี, ศ.เสน่ห์ จามริก, ศ.อภิชัย พันธเสน, และศ.ฉัตรทิพย์ นาถสุภา โดยเชื่อมโยงแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับวัฒนธรรมชุมชน ซึ่งเคยถูกเสนอมาก่อนหน้าโดยองค์กรพัฒนาเอกชนจำนวนหนึ่งนับตั้งแต่พุทธทศวรรษ 2520 และได้ช่วยให้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสังคมไทย
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิในทางเศรษฐกิจและสาขาอื่น ๆ มาร่วมกันประมวลและกลั่นกรองพระราชดำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อบรรจุในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9[3][4] และได้จัดทำเป็นบทความเรื่อง "ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" และได้นำความกราบบังคลทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2542 โดยทรงพระกรุณาปรับปรุงแก้ไขพระราชทานและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำบทความที่ทรงแก้ไขแล้วไปเผยแพร่ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนโดยทั่วไป เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ได้รับการเชิดชูเป็นอย่างสูงจากองค์การสหประชาชาติ ว่าเป็นปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ[5] และสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกยึดเป็นแนวทางสู่การพัฒนาแบบยั่งยืน[6] โดยมีนักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนเห็นด้วยกับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง แต่ในขณะเดียวกัน บางสื่อได้มีการตั้งคำถามถึงการยกย่องขององค์การสหประชาชาติ รวมทั้งความน่าเชื่อถือของรายงานศึกษาและท่าทีขององค์การ
กิริยา3ช่องพื้นฐาน ง่ายๆ
กริยาอปรกติ หรือกริยาอปกติ (Irregular Verbs) หรือกริยาสามช่อง | |||
Present | Past Simple | Past Participle | ความหมาย |
be(is,am,are) | was,were | been | เป็น,อยู่,คือ |
bear | bore | born | ถือ,เกิด |
become | became | become | กลายเป็น |
begin | began | begun | เริ่มต้น |
bend | bent | bent | โค้ง งอ |
bet | bet | bet | พนัน |
bite | bit | bitten (or bit) | กัด ขบ ฉีก |
bleed | bled | bled | เลือดออก |
blow | blew | blown | พัด เป่า ตี |
bring | brought | brought | นำมา เอามา |
build | built | built | สร้าง ก่อสร้าง |
burst | burst | burst | ระเบิด |
buy | bought | bought | ซื้อ |
cast | cast | cast | ขว้าง |
catch | caught | caught | จับ ได้รับ |
choose | chose | chosen | เลือก |
cling | clung | clung | เกาะ เป็นที่พึ่ง |
come | came | come | มา |
cost | cost | cost | ราคา |
dig | dug | dug | ขุด |
dive | dived (or dove) | dived | ดำนํ้า |
do | did | done | ทำ |
draw | drew | drawn | ลาก วาด เขียน |
drink | drank | drunk | ดื่ม |
drive | drove | driven | ขับ(รถ) |
eat | ate | eaten | กิน |
fall | fell | fallen | ตก หล่น |
fight | fought | fought | ต่อสู้ |
fling | flung | flung | โยน พุ่ง เหวี่ยง |
fly | flew | flown | บิน |
forbid | forbade | forbidden | ห้าม ไม่อนุญาต |
forget | forgot | forgotten | ลืม |
freeze | froze | frozen | เย็นจนแข็ง |
get | got | got (or gotten) | เอา ได้รับ |
give | gave | given | ให้ |
go | went | gone | ไป |
grind | ground | ground | บด ลับ |
grow | grew | grown | เติบโตขึ้น |
hang (people) | hanged | hanged | แขวนคอ |
hang (pictures) | hung | hung | แขวน ห้อย |
have | had | had | มี |
hide | hid | hidden | ซ่อน |
hurt | hurt | hurt | ทำอันตราย |
know | knew | known | รู้ |
lay | laid | laid | วาง ออกไข่ |
lead | led | led | นำ พา |
leave | left | left | ละทิ้ง จากไป |
lend | lent | lent | ให้ยืม |
lie | lay | lain | นอน |
light | lit | lit | จุดไฟ |
make | made | made | ทำ |
mistake | mistook | mistaken | ทำผิด |
pay | paid | paid | จ่าย ชำระ |
quit | quitted (or quit) | quit | หยุด ยุติ เลิก |
ride | rode | ridden | ขี่ ขับ |
ring | rang | rung | สั่นกระดิ่ง ดัง |
rise | rose | risen | ขึ้น ลุกขึ้น |
run | ran | run | วิ่ง |
saw | sawed | sawn | เลื่อย |
say | said | said | พูด |
see | saw | seen | เห็น |
seek | sought | sought | ค้นหา |
sell | sold | sold | ขาย |
set | set | set | ตั้ง วาง จัด |
shake | shook | shaken | เขย่า สั่น |
shine | shone | shone | ส่องแสง |
shrink | shrank | shrunk | หดลง สั้นลง |
sing | sang | sung | ร้องเพลง |
sink | sank | sunk | จม ถอยลง |
slide | slid | slid | สื่นไถล เลื่อนไป |
speak | spoke | spoken | พูด |
spin | spun | spun | ม้วน ปั่นฝ้าย |
split | split | split | แตก แยก |
spring | sprang | sprung | โดดอย่างเร็ว เด้ง |
sting | stung | stung | ต่อย แทง |
stink | stank | stunk | ส่งกลิ่นเหม็น |
strike | struck | struck | ตี ต่อย กระทบ |
string | strung | strung | ผูกเชือก ขึงสาย |
strive | strove | striven | พยายาม ขันสู้ |
swear | swore | sworn | สาบาน ปฏิญาณ |
swell | swelled | swollen | โตขึ้น หนาขึ้น |
swim | swam | swum | ว่ายนํ้า |
swing | swung | swung | แกว่ง เหวี่ยง |
take | took | taken | เอา จับหยิบ |
teach | taught | taught | สอน |
tear | tore | torn | ฉีก ขาด |
think | thought | thought | คิด |
throw | threw | thrown | เหวี่ยง ขว้าง |
wake | woke | waken | ตื่น ปลุก |
wear | wore | worn | สวม ใส่ |
weave | wove | woven | ทอผ้า สาน |
weep | wept | wept | ร้องไห้ |
wring | wrung | wrung | บีบ คั้น |
write | wrote | written | เขียน |
วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)